10 วิธีดำรงชีวิตในมหาวิทยาลัย 

 

ถ้ากล่าวถึงการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย ใครๆก็อาจคิดว่ามันเป็นเรื่องง่าย ถ้าไม่ได้ลองเข้ามาใช้ชีวิตจริงๆก็ไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน กว่าจะเรียนจบ 4 ปีต้องเผชิญกับเหตุการณ์มากมายที่เข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย วิธีการใช้ชีวิตของเราให้มีความสุข และตลอดเวลาการเรียนนั้น ก็มีอยู่ด้วยกันมากมาย แต่ไม่ได้มีบัญญัติไว้อย่างเป็นทางการจากวิชาการท่านใด มีเพียงพวกเราที่ประสบความสำเร็จและอยู่ในมหาลัยนี้อย่างมีความสุขเท่านั้น ที่เรียบเรียงวิธีเหล่านี้ให้พวกคุณ

1.ปรับตัวให้เข้ากับสังคม คือพยายามที่จะเปิดตัวเปิดใจรับกับสิ่งใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามาในอนาคตอันใกล้

2.เข้าทำกิอจกรรมทางมหาวิทยาลัย คือ เมื่อทางมหาวิทยาลัยมีงานก็เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อที่จะได้ประสบการณ์

3.รู้จักคบเพื่อนและคบให้ถูกคือ รู้จักที่จะเข้าหาผู้อื่นเข้าร่วมกับสังคมเพื่อที่จะปรับตัวเป็น นั่นคือการรู้จักคบเพื่อนไปในทางที่ดี

4.การรู้จักที่จะให้อภัย แต่ข้อนี้ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าให้มีวงจำกัดอยู่แค่ในรั้วมหาวิทยาลัย ถ้าจะดีควรจะเผบแพร่ไปสู่ผู้อื่นด้วยจะดีกว่า เพราะเมื่อเรารู้จักการให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นทำผิดพลาดเปรียบกับสำนวนไทยที่ว่า เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร นั่นแล

5.หัดเข้าชมรมเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์หลายอย่าง มหาวิทยาลัยของคุณคงมีชมรมให้คุณเลือกอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น ด้านกีฬา ดนตรีคุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ

6.อย่าเดินหลังเที่ยงคืน โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นหญิงสาววัยละอ่อน คุณยิ่งต้องระวังเอาไว้เลย ช่วงพระอาทิตย์ตกดินเป็นต้นไปพวกมิจฉาชีพมาเดินกันขวักไขว่ทางที่ดีท่านควรที่จะพาเพื่อนเดินไปด้วยสักคน

7.เลือกหอพักให้ดีถ้าคุณเป็นหญิงสาวคุณอาจเลือกหอพักที่เป็นหญิงล้วน เพราะอาจพักหอหญิงและหอชายรวมกัน มันอาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นมาก็ได้

8.ตีซี้อาจารย์ คุณคิดว่าอยู่ในมหาลัยคบเพื่อนอย่างเดียวพอแล้วหรือ ไม่หรอกคะ การคบแต่เพื่อนมันจะทำให้คุณเรียนดีขึ้นไหม คะแนนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ต้องเข้าหาอาจารย์คุณจะได้รับคำปรึกษามากมาย แต่ที่สำคัญอาจารย์จะแปลงร่างเป็นนักจิตวิทยาได้

9.มาเรียนอย่างสม่ำเสมอ การที่คุณมาเข้าเรียนสายนั้นอาจทำให้คุณพลาดอะไรบางอย่างไปอย่างไม่คาดคิดเช่น พลาดการเชคชื่อ หรือแนวข้อสอบ

10.คิดทุกอย่างก่อนที่จะทำอะไรลงไปการที่คุณจะทำอะไรลงไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือกิจกรรมคุณควรทำอย่างไตร่ตรองก่อนที่จะลงมือปฏิบัติ อย่างไรก็ตามการดำรงชีวิตรั้วมหาวิทยาลัย ก็ต้องขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเราเองเหมือนกับคำโบราณ ที่กล่าวว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม เพื่ออนาคตของตัวเราเอง